Saturday, March 7, 2009

Sufferrosuppressive drug

เมื่อวานซืนพี่เจย์ (นักศึกษาป.โท หลักสูตรจิตตปัญญาศึกษาฯ) โพล่งถามขึ้นมาตอนนั่งรถระหว่างเดินทางไปอาศรมวงศ์สนิทว่า

"ถ้ามียาที่ช่วยทำให้ไม่ทุกข์เลย จะทำยังไงกับมัน?"

วันนี้ก็จะใช้โอกาสนี้ แบ่งปันคำตอบของผมให้ได้ฟังกัน

แว้บแรกเลย ("แว้บ" ใช้ตัวสะกดเป็น ว. แหวน ซึ่งเป็นอักษรต่ำ ผันเสียงตรีใช้ไม้โทนะนุ้ก :p)
กินเอง!
ก็จะได้ไม่ทุกข์ไง แล้วจะมีความสุข
แล้วก็ตามมาด้วยความคิดว่า
เอ...ถ้าไม่รู้จักทุกข์ แล้วจะรู้จักความสุขได้ไง?
ความทุกข์ก็ไม่ได้แย่เสมอไปนี่เนาะ

ก็เลยเปลี่ยนใจเป็นว่า ไม่กินแล้ว
แล้วจะเอาไปให้คนอื่นแทน...

แล้วใครดีล่ะ?
ให้คนทั่วๆ ไปที่ยังมีโอกาสในการทำตัวทำใจให้ไม่ทุกข์ไปกับความทุกข์
ก็แลดูจะไปตัดโอกาสการเรียนรู้ของคนนั้นไปหน่อย

ก็เลยคิดถึงคนที่มีความทุกข์ แต่มีเวลาเหลือน้อยเต็มที

คนที่ป่วยเป็นโรคระยะสุดท้าย หรือกำลังทุกข์ทรมานกับบางสิ่งในชีวิตในระยะสุดท้ายของชีวิต
แม้จะดูเป็นทางลัด แต่อย่างน้อยก็ได้จากชีวิตนี้ไปด้วยความสุข...น่าจะดีกว่าจากไปพร้อมกับความทุกข์ล่ะน่า

ก็...ก็ได้เป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับการใช้งานยาตัวนี้ของผม

ของคนอื่นล่ะ?

Halley
7 มีนาคม 2552, 21.41 น.
101/30, Lumpini Place Rama III - Charoenkrung

Friday, March 6, 2009

Reflection




ในขณะที่ฉันกำลังอยู่กับโจทย์ใหม่ๆในชีวิตที่รุมเร้าเข้ามา
ก็ได้เห็นตัวเองและคนรอบข้างในบทบาทที่ไม่คุ้นเคย
และก็ได้ห็นภาพสะท้อนหลายๆอย่าง

---------------------------


ในขณะที่ฉันกำลัง (อยากจะ) ก้าวไปข้างหน้า
ฉันเอง ก็กำลังถอยหลังออกจากคนบางคนในชีวิต

ในขณะที่ฉันกำลังต้องการการยอมรับ
ฉันเอง ก็กำลังไม่ยอมรับคนบางคนในชีวิต

ในขณะที่ฉันกำลังกลัวว่าจะถูกลืม
ฉันเอง ก็กำลังลืมคนบางคนในชีวิตไป

ในขณะที่ฉันกำลังไม่้ต้องการมีเงื่อนไข
ฉันเอง ก็กำลังสร้างเงื่อนไขให้กับคนบางคนในชีวิต

............


ราตรีสวัสดิ์ค่ะ :)

เพื่อนตาย - เงื่อนตาย

ฉันผูกใจไว้ในความเป็นเพื่อน
ผูกเงื่อนงดงามผูกความหมาย
ผูกความเป็นเพื่อนในเงื่อนตาย
ผูกสายรักเพื่อนในเงื่อนนี้

ต่างสายเลือดผูกได้ผูกสายร่วม
สายเลือดรวมผูกใจไว้ทุกที่
เงื่อนรักผูกไว้ผูกใยดี
โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย

วาณิช จรุงกิจอนันต์



เจอกวีบทนี้ในหนังสือ "อำลาศาลายา" ของปีนี้
ชอบจัง...ชอบตั้งแต่แรกอ่าน

รู้สึกเป็นปมที่ผูกเอาคำต่างๆ ที่เห็นแล้วโดนๆ มาไว้ด้วยกันได้อย่างสวยงาม
แม้อาจไม่สวยงามในด้านฉันทลักษณ์
แต่สำหรับฉันแล้ว...โดยเฉพาะช่วงนี้ เมื่อ "ความเป็นเพื่อน" "เงื่อนตาย" "เพื่อนรัก" "รักเพื่อน" "เงื่อน" "รักโดยไม่มีเงื่อนไข" เมื่อมันมาอยู่รวมกัน แล้วโผล่ปรากฏ (emerge) ขึ้นมาในความหมายใหม่นี้ ชอบแฮะ

สำหรับฉันแล้ว เป็นการยากที่จะเปิด
ทั้งเปิดตัวเอง เผยตัวเองออกมาให้คนอื่นเห็น
และเปิดใจรับความเป็นเพื่อนจากคนอื่นๆ
แต่เมื่อฉันได้ตกลงปลงใจที่จะเปิดรับใครสักคนหนึ่งในชีวิตเข้ามาเป็นเพื่อน
ประตูบานนั้นก็จะไม่เคยปิดลง มีแต่นับวันจะเปิดกว้างขึ้น

ก็คงเหมือนเงื่อนตายละมั้ง?
ที่เมื่อได้ผูกแล้ว จะปลดออกก็ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย มีแต่จะยิ่งพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนังมากยิ่งขึ้น

ฉันเปิดประตูใจให้เพื่อนเข้ามามีบทบาทต่อฉันมากขึ้น
เปิดพื้นที่ ใช้พื้นที่ ใช้พลังงานในชีวิตของฉันไปกับการเดินทางที่มีเพื่อนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยมากขึ้น
มากจน...สำหรับเพื่อนบางคน ฉันคิดว่า ในโมเม้นท์เฉียดตายใดๆ ถ้าฉันมีเจตจำนงเสรีในการเลือกอย่างเต็มที่ ฉันเลือกที่จะตายแทนเพื่อนได้ โดยไม่เสียดายชีวิต

มากไปไหม?
ก็เคยคิดนะ แต่ฉันเชื่อใจ ไว้ใจ และมั่นใจมากว่า สำหรับเพื่อนที่ฉันจะตายแทนได้นั้น
เขา/เธอจะต้องเติบโตต่อไปทำอะไรดีๆ ให้กับสังคม โลก และจักรวาลนี้ได้
ซึ่งมันก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ระหว่างชีวิตฉันหนึ่งชีวิต กับความจริง/ดี/งาม ที่เขา/เธอ จะทำให้มันเหิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า

อืม...

Halley, 6 มีนาคม 2552, 18.29 น.
101/30, Lumpini Place Rama III-Charoenkrung

Thursday, March 5, 2009

BangPan WOW!!



เหตุเกิดบนแท๊กซี่...
เมื่อถามไปว่าจะมี blog แบ่งปันดีไหม
ก็ได้รับเสียงตอบรับว่าดี
จะได้มีการรวบรวมเรื่องราวให้เป็นเรื่องเป็นราว

แล้ว...
ถ้ามันจะมี มันก็จะมี
ถ้ามันจะไม่มี มันก็จะไม่มี

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
:)